โซดาไฟ หรือคอสติกโซดาเป็นสารเคมีที่เรามักเคยเห็น หรือได้ยินมาว่า สามารถแก้ปัญหาท่อน้ำ หรือชักโครกตันได้เป็นอย่างดี แต่โซดาไฟ เป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อน ดังนั้นเราจึงต้องรู้ วิธีใช้โซดาไฟอย่างถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง และอุปกรณ์ที่เรานำโซดาไฟไปใช้งานร่วมกัน
การป้องกันโซดาไฟแข็งตัวในโถชักโครก หากท่านจะใช้โซดาไฟชนิดเกร็ดหรือผงในการแก้โถชักโครกหรือท่ออุดตันหลังจากใส่โซดาไฟลงไปแล้วอย่าปล่อยทิ้งไว้นานเกิน 5 นาที หลังจากเทลงไปสองสามนาทีก็ให้ราดน้ำตามลงไปเลยมิเช่นนั้นโซดาไฟจะแข็งตัวเป็นเนื้อเดียวกันจนอุดโถท่อชักโครกดังกล่าว
สารบัญเนื้อหา
- โซดาไฟคืออะไร
- วิธีใช้โซดาไฟแก้ชักโครกตันและท่อตัน
- ข้อควรระวังในการใช้งานโซดาไฟ
- ผลกระทบต่อร่างกายหากใช้โซดาไฟผิดวิธี
- วิธีแก้โซดาไฟแข็งตัวอุดตัน
- สรุป
1.โซดาไฟ คืออะไร
โซดาไฟ หรือคอสติกโซดา อังกฤษ : caustic soda คือ สารประกอบชนิดหนึ่ง ชื่อ โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH) Sodium Hydroxide เป็นของแข็งสีขาว ดูดความชื้นดีมาก ละลายน้ำได้ดีมีสถานะเป็นของแข็งสีขาวหรืออาจอยู่ในรูปของเหลวที่เป็นสารละลาย คุณสมบัติสามารถดูดซับความชื้นได้ดี มีฤทธิ์กัดกร่อน เมื่อสัมผัสกับความชื้นจะทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ นอกจากการใช้งานแก้ปัญหาชักโครกตัน ท่อน้ำตันแล้ว โซดาไฟยังนำไปใช้ในอุสาหกรรมต่าง ๆ เช่น สบู่ ผงซักฟอก กระดาษ ฯลฯ
ปัจจุบันผู้คนนิยมมาทำความสะอาด เช่น ขจัดคราบสกปรกและสิ่งอุดตันในท่อระบายน้ำ ขจัดคราบไขมันและเส้นผม ช่วยให้สะอาด ขจัดเชื้อโรค ชแปลงสภาพกรดให้กลายเป็นด่าง มีส่วนช่วยบำบัดน้ำเสียและปรับปรุงคุณภาพน้ำ แต่ถ้าใช้งานโดยไม่ระวังอาจก่อให้เกิดอัตรายแก่ตัวผู้ใช้ได้ ผู้ใช้จึงควรศึกษารายละเอียดขั้นตอนการใช้งาน วิธีการเก็บรักษา และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น
เรารู้กันดีอยู่แล้วว่าท่อตันนั้นเราสามารถใช้โซดาไฟแก้ปัญหาท่อตันได้ แต่มันมีวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง เรามาดูกันดีกว่าครับ การใช้งานที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร หลายๆคนจะได้นำไปใช้งานกันได้ครับ
โซดาไฟ เป็นสารเคมีที่มีอันตรายต่อร่างกายหากเราใช้งานไม่ถูกต้อง ทุกครั้งก่อนใช้งานควรมีการสวมถุงมือยาง แว่นตากันสารเคมี หน้ากากป้องกันสารเคมี เสื้อผ้าที่มิดชิด เพื่อไม่ให้ไอระเหยเข้าสู่ผิวหนังและเข้าสู่ร่างกาย แต่นอกเหนือจากโซดาไฟแล้ว ปัญหาชักโครกตัน ท่อน้ำตัน หรือคราบสกปรก คราบหินปูนตามร่องน้ำ เราสามารถซื้อน้ำยาล้างท่อตัน หรือน้ำยาทำความสะอาดมาใช้แทนได้ ปลอดภัยกว่า และสามารถจัดเก็บได้ปลอดภัยกว่าอีกด้วย
2.วิธีใช้โซดาไฟแก้ชักโครกตันและท่อตัน
- นำน้ำประมาณ 1 ลิตร ใส่ลงในภาชนะที่เป็นแก้ว ไม่แนะนำให้ใช้พลาติก เพราะความร้อนที่เกิดจากการสัมผัสความชื้นของโซดาไฟ จะทำให้พลาสติกละลายได้
- หลังจากนั้นให้ใส่โซดาไฟลงไปในภาชนะที่มีน้ำประมาณ 5-8 ช้อนโต๊ะ แล้วคนให้เข้ากันจนโซดาไฟละลาย ในขั้นตอนนี้ให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าให้เข้าตา จมูก เนื่องจากจะเกิดความร้อนและไอระเหย ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันร่างกาย
- เมื่อละลายแล้วก็นำสารละลายดังกล่าวเทลงในชักโครกตันหรือท่อตัน แล้วรอให้โซดาออกฤทธิ์
- ทิ้งไว้ 2-4 นาที ก่อนจะเทน้ำตามมาก ๆ เพื่อเป็นการล้างโซดาไฟและคราบสกปรก
3.ข้อควรระวังในการใช้งานโซดาไฟ
ถึงแม้โซดาไฟยี่ห้อต่าง ๆ จะใช้งานกันมากในวงการอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่ก็มีข้อควรระวังเกี่ยวกับการใช้งาน เนื่องจากเป็นสารเคมี ดังนั้นเวลาใช้งานจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
- การสัมผัสกับผิวหนังที่มีความเข้มข้นสูงจะทำให้เกิดเป็นแผลพุพอง และเป็นแผลเป็นได้ หรือการสัมผัสกับไอของโซเดียมไฮดรอกไซด์เป็นเวลานานจะทำให้ผิวหนังแห้ง แตกสะเก็ดเป็นแผลได้ ระวังอย่าให้โซดาไฟถูกผิวหนัง
- เมื่อสัมผัสกับตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง ทำลายเนื้อเยื่อ แผลพุพอง เป็นต้อหินหรือต้อกระจกและอาจตาบอดได้
- ละอองของโซเดียมไฮดรอกไซด์หรือโซดาไฟทำให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุระบบทางเดินหายใจ หากสูดเอาไอหรือฝุ่นโซดาไฟเข้าไป และอาจมีผลให้เกิดการระคายเคือง และอักเสบที่ปอด
- ขณะใช้งาน ควรสวมผ้าปิดจมูก สวมถุงเท้า ถุงยางมือ แว่นตากันสารเคมี และสวมชุดป้องกันสารเคมีให้เรียบร้อย
- เมื่อเข้าสู่ปาก และทางเดินอาหารจะทำให้เกิดการกัดกร่อนอย่างรุนแรงต่อเนื้อเยื่อทางเดิน อาหาร ทำให้เป็นแผลที่ช่องปาก และลำคอไหม้ ปวดท้อง ท้องเสีย อาเจียน วิงเวียน จนถึงตายได้และอาจจะกลายเป็นมะเร็งในระยะเวลา 10-20 ปีได้
ขั้นตอนหลัก ๆ การปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- หากถูกผิวหนังให้ล้างด้วยน้ำสบู่และน้ำ
- ถ้าเข้าตาให้ล้างน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้ง
- หากเข้าปากให้ล้างท้องด้วยกรดน้ำส้มายชู
- ใช้ยาทาแก้แผลไฟไหม้เพื่อปฐมพยาบาลเบื้องต้น
- จากนั้นรีบนำผู้ป่วยส่งแพทย์ทันที
วิธีการเก็บรักษา
- เก็บไส้ที่แห้ง อย่าให้ถูกความชื้น
- เวลาใช้ให้สวมหน้ากาก ชนิดเต็มหน้า สวมถุงมือ รองเท้ายาง เสื้อคลุม
- ทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลักจากการใช้งาน
- อย่าให้ถูกกรดและสารติดไฟ
4.ผลกระทบต่อร่างกายหากใช้โซดาไฟผิดวิธี
- หากทานโซดาไฟเข้าไป จะมีอาการอาเจียนมีเลือดปนออกมา ช่องทางเดินอาหารมีบาดแผลเนื่องจากโดนกัดกร่อน แสบร้อน ถึงขั้นอุจาระเป็นเลือด
- หากสูดดมไอระเหยโซดาไฟเข้าไป จะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ทำให้หายใจลำบาก ระคายเคืองเนื้อเยื่อบริเวณจมูก ลำคอ และกล่องเสียงบวมทำให้สามารถเกิดภาวะขาดอากาศหายใจได้
- หากโซดาไฟสัมผัสกับผิวหนัง เนื่องจากโซดาไฟมีฤทธิ์กัดกร่อน ทำให้แสบร้อนผิวหนัง ผิวไหม้ และอาจเกิดลมพิษขึ้นได้
5.วิธีแก้โซดาไฟแข็งตัวอุดตัน หรือละลายโซดาไฟที่แข็งตัวในโถชักโครก
โซดาไฟจะเกิดการแข็งตัวและอุดตันท่อ หรือคอห่านหากเราเทลงทิ้งไว้นานเกินไป ดังนั้นไม่ควรทิ้งไว้นานเกิน 5 นาที หากโซดาไฟเกิดแข็งตัวติดอุดอยู่ในโถชักโครก ความจริงโซดา ไฟที่แข็งตัวสามารถละลายในน้ำได้เองเมื่อทิ้งไว้ในน้ำหลาย ๆ วัน แต่ถ้าท่านต้องการให้ละลายเร็วขึ้นก็ให้ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำมาราดลงไปในโถชักโครกหรือคอห่านที่โซดาไฟแข็งติดอยู่ไม่นานมันก็จะละลายออกไปเร็วขึ้นครับ หรือไม่ก็นำน้ำส้มสายชูสักขวด ไม่ก็น้ำยาล้างห้องน้ำที่เป็นกรดอ่อน ๆ เช่น HCl ที่เป็นน้ำยาล้างห้องน้ำ มาราดลงไปทิ้งไว้สักชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วกดชักโครกตามก็จะทำให้โซดาไฟละลายได้เร็วขึ้นเช่นกัน
แต่ถ้าหากโซดาไฟแข็งตัวอุดตันท่อ ให้ทำดังนี้
- ใช้น้ำร้อนเดือด ๆ ราดตามลงไป
- ใช้น้ำส้มสายชูราดตามลงไป
- ใช้น้ำยาล้างห้องน้ำหรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีฤทธิ์เป็นกรดลาดลงไป
สรุป
การเลือกใช้งานโซดาไฟ คุณควรระมัดระวังให้มาก และหากไม่แน่ใจ ควรเรียกผุ้เชี่ยวชาญมาจัดการให้ เนื่องจากเป็นสารเคมีที่อาจเกิดปฎิกิริยาได้ นอกจากนี้แล้ว แม้จะเป็นสารที่ไม่ติดไฟ แต่ถ้าสัมผัสกับสารบางชนิด ก็อาจเกิดความร้อนจนติดไฟได้เช่นกัน ผลิตภัณฑ์ที่มีการนำมาใช้เป็นสารขจัดสิ่งอุดตันในท่อน้ำทิ้งได้แก่ พวกเอ็นไซม์และจุลินทรีย์ มีความปลอดภัยต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมมากกว่า แต่อาจไม่ได้ผลเร็วอย่างที่คาดหวัง ผู้ใช้จึงควรศึกษารายละเอียดขั้นตอนการใช้งาน วิธีการเก็บรักษา และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ให้เป็นอย่างดีนะครับ
Good article. I definitely love this site. Keep writing! Sarena Howard Kinnard
Wow! Finally I got a web site from where I know how to really take helpful information regarding my study and knowledge. Elnore Jereme Fernandez
Magnificent site. Lots of useful information here. I am sending it to a few friends ans additionally sharing in delicious. And naturally, thanks in your sweat!| Marisa Leroy McLaurin